บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

คุณงง แกงงจริง


คนที่สองที่จะนำความคิดเห็นมาเสนอก็คือ คุณงง [IP: 115.67.232.189]15 August 2009 23:40 ซึ่งเข้ามาให้ความเห็นดังนี้

ทางสู่นิพพานไม่ครุมเครือ เส้นทางปฏิบัติ เพื่อนิพพานไม่ครุมเครือ ละเอียด เห็นผล จริง

ข้าพเจ้า เห็นเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ที่เชื่อว่า เป็นของ วัด ธรรมเกิน ที่ตั้งหัวข้อว่า นิจจัง ทุกขัง อัตตา

ในนั้นเขียนว่า พระพุทธเจ้าสอนผิด สอนคลุมเครือ ไม่ชี้ชัดว่า นิพพานเป็น อะไรกันแน่ และที่เน้น เขาเน้นว่า แน่นอน นิพพานเป็น อัตตาอย่างแน่นอน

อะไรกันนี้ ข้าพเจ้า อ่านแล้วก็ เหนื่อยใจ ทุกข์ใจ ประหลาดใจว่า คนที่คิดว่าตนเองนั้นฉลาด กับกลายว่า ไม่เข้าใจความจริงว่า ถ้าพระพุทธเจ้านั้น จะกล่าวว่านิพพาน เป็นอย่างไรข้างใดข้างหนึ่งรับรองว่า จะมีผู้ต่อต้านอย่างแน่นอน

ฉะนั้นพระพุทธเจ้า จึงเน้นให้ปฏิบัติ ปฏิบัติตามแนวทางตามขั้นตอน ข้าพเจ้ายอมรับอยู่ว่า พระพุทธเจ้า ตรัสเรื่องนิพพานคลุมเครือจริง พระองค์ไม่ชี้ชัด

ข้าพเจ้าคิดว่า พระองค์คงมองเห็นปัญหาข้างหน้าแล้ว แน่นอนปัญหา เรื่องไม่ลงรอยกันเรื่อง นิพพานเป็นอะไร แต่ถึงว่าพระพุทธเจ้าจะตรัสเรื่องนิพพานครุมเครือ แต่ พระองค์ตรัสสอนเส้นทางไปสู้นิพพาน ละเอียดมาก

อย่างที่ข้าพเจ้า เขียนไว้แต่ที่แรกว่า ผู้ที่ไม่รู้จัก การให้ทาน จะสอนเรื่องศีลไม่ได้ ผู้ที่ไม่มีศีล จะสอนเรื่องสมาธิก็ไร้ค่า ผู้ที่ไม่รู้จักสมาธิ จะสอนว่านิพพานคืออะไร มันก็ไร้ประโยชน์

ทั้งที่คนของวัดธรรมกาย เป็นผู้มักมากอยู่อย่างนี้ มาเที่ยวสอนเรื่องนิพพานเป็นอัตตา เป็นคนมัก ในเงินทอง ไม่รู้จักพอ เช่นนี้ ว่าแต่เรื่องนิพพานเลย แค่เรื่องการให้ทาน พระสงฆ์ในวัดธรรมกายก็ทำไม่ได้

แล้วท่านทั้งหลายนั้นจะมาสอนเรื่องนิพพานที่ จำเป็นต้องมีศีล สมาธิ และปัญญา เป็นเครื่องให้ไปถึง มาเที่ยวพูดเที่ยวเขียนแสดงความฉลาดที่น่าตลกว่า นิพพานเป็นนิจจัง ทุกขัง อัตตา แล้วให้เหตุผลว่า เพราะพระพุทธ ตรัสคลุมเครือ

แล้วเขียนว่าแรงมาก อีกมากมาย ไม่อยากเขียน แต่ข้าพเจ้าอยากบอก คนที่เขียนว่า การปฏิบัติ เพื่อเข้าสู่นิพพานไม่ครุมเครือ ถ้าอย่างรู้ให้ปฏิบัติตามแนวทาง มีความอดทน

ถ้าทำไม่ได้ อย่ามากล่าวว่า นิพพานครุมเครือ โดย เฉพาะ มรรคมีองค์ ๘ นั้น มันไม่ใช่ว่า เส้นทาง ๘ เส้นทาง แต่เป็นเส้นทางเดียวที่มีอยู่ ๘ ระดับ มรรคมีองค์ ๘ ปฏิบัติ คู่กับ สังโยชน์ ๑๐ จะต้องอธิบายเรื่องมรรคไหม

มรรคข้อที่หนึ่ง ความเห็นชอบ คือ รู้ว่า โลกนี้เต็มไปด้วยความทุกข์ เชื่อเรื่องผลกรรม

มรรคข้อที่ ๒ ความดำริชอบ คือ สำรวมในจิต
มรรคข้อที่ ๓ วาจาชอบ คือ สำรวมใน วาจา
มรรคข้อที่ ๔ การงานชอบ คือ สำรวมทางกาย
มรรคข้อที่ ๕ เลี้ยงชีพชอบ คือ ออกบวช และปฏิบัติในศีล ละเมิดศีล
มรรคข้อที่ ๖ พยายามชอบ คือ พยายาม กันไม่ไห้กิเลสใหม่เกิดขึ้น พยายามทำลายกิเลสที่อยู่ในใจทิ้ง เจริญความดีที่ยังไม่เกิดให้เกิด เจริญความดีที่มีอยู่แล้วในจิตให้เจริญเพิ่มขึ้น

มรรคข้อที่ ๗ ระลึกชอบ คือ สติปัฏฐาน ๔ คือ เห็นกายในกาย
เห็นเวทนาในเวทนา
เห็นจิตในจิต
เห็นธรรมในธรรม

มรรคข้อที่ ๗ ก็ คือสมาธิ ดีๆ นี้เอง
สติปัฏฐาน ๔ อิทธิบาท ๔

นั่งสมาธิ เราต้องกำหนดว่า ท่านั่งเป็นอย่างไง ลักษณะของร่างกายอยู่อย่างไง ฉันทะ คือ ความพอใจ ให้คิดเสมอว่า ฉันพอใจจะนั่ง ถึงคันฉันก็พอใจ

ต่อมาพิจารนา เวทนาในเวทนา เราเห็น ความเมื่อยจากการนั่ง ความคัน จากร่างกาย ความง่วง ความเพียร คือความอดทน ฝึก การนั่งจนร่างกายมันชิดชากับการนั่งนาน เพิ่มระยะเวลาขึ้นเรื่อยๆ

เห็นจิตในจิต การดูจิต หรือการตามจิตไปตามลมหายใจเข้าออก จิตตะ การดูจิต หรือการตามจิตไปตามลมหายใจเข้าออก

เห็นธรรมในธรรม เห็นความจริงที่พร้อมได้เห็นและผล วิมังสา คือ ทบทวนธรรม ที่ได้จากสมาธิ

เมื่อจบตรงนี้ ตัวเราเองจะบอกได้ได้ว่านิพพานคือ อะไร ตรงคือ ญาณทัศนะ รู้แล้วว่าจะปฏิบัติอย่างไง นิพพานจึงจะแจ้ง

มรรคข้อที่ ๘ ตั้งใจชอบ คือ ฝึกฝนญาณให้สูงขึ้นไปเรื่อย จนถึงขั้น ญาณที่ ๔

ทางที่ไม่ครุมเครือมีอยู่ปฏิบัติตามนี้ได้ นิพพานที่ เดียรถีย์ ทั้งหลาย บอกว่า เป็นอัตตา จะเห็นว่าไม่เกี่ยวกันเลย

แม้แต่ในสมาธินั้น ซึ่งเป็น นิพพานสั้นๆ ยังไม่มีอยู่เลยอัตตา แล้วนิพพานที่สมบูรณ์แบบจะเป็นอัตตาได้อย่างไง

คนที่บอกว่านิพพาน เป็นนิจจัง ทุกขัง อัตตา เพราะพระพุทธเจ้า สอนเรื่องนิพพานครุมเครือ ไม่ชี้ชัดไปว่าคือ อะไร จงรู้ว่า เส้นทางไปสู่นิพพานไม่ครุมเครือ รู้จริงถ้าทำได้ อย่างแสดงความฉลาดที่หาปัญญาไม่ได้

คนที่ไม่รู้เรื่องเขาจะงง แต่คนที่รู้เรื่อง เขาดูถูกท่านเต็มๆ อ๋อ คนๆนี้ ศีลบกพร่อง เป็นคนทุศีล จึงปฏิบัติสมาธิไม่ได้ ไม่รู้ว่า พระพุทธเจ้า ตรัสบอกไม่ได้ เนื่องด้วยเรื่องนิพพานเป็นเรื่องละเอียด คนที่มีกิเลสมาก ปัญญาทรามมากบอกไม่ได้

พระพุทธเจ้าจึงสอนเฉพาะ ทางไปสู่นิพพาน ที่ละเอียด แทนการบอกว่า นิพพานเป็นอย่างไง ทางไปนิพพาน ทางปฏิบัติไปสู่นิพพานไม่ซับซ้อน ไปตามขั้น ถ้าปฏิบัติอย่างนี้ได้มันก็จะพัฒนาไปเรื่อย

วิปัสสนาข้าพเจ้ารู้แต่เพียงว่า เป็นการฝึกตามจิตให้ทัน พอทันจิต การคิดที่ไม่ดี จะมีจิตดีมาแก้ไขได้ทัน แต่วิชาธรรมเกินของหลวงพ่อสด ไม่ใช่วิปัสสนา เป็นแค่สมถะ แค่กดกิเลส แต่ทำลายกิเลสไม่ได้

อยากให้คนใน สำนักธรรมเกิน อ่านพระไตรปิฎก ฉบับมหาจุฬาฯ พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค หน้า ๑๔๗ เรื่องที่ทรงพยากรณ์ เนื้อความมีว่า

จุนทะ เป็นไปได้ที่อัญเดียรถีย์ปริริพาชก (นักบวชนอกศาสนา) กล่าวว่า หลักจากตายแล้ว ตถาคต เกิดอีก นี้เท่านั้นจริง อย่างอื่นไม่จริง กระนั้นหรือ เธอทั้งหลายพึงกล่าวอย่างนี้กับอัญเดียรถีย์ ปริพาชกผู้มีวาทะอย่างนั้นว่า พระผู้มีพระภาคมิได้ทรงพยากรณ์ไว้แม้อย่างนี้ว่า หลังตายแล้ว ตถาคตเกิดอีก นี้เท่านั้นจริง อย่างอื่นไม่จริง

ยังมีอีกยาว และอีกหลายอย่างพระพุทธเจ้า เน้นภิกษุของพระองค์นั้นตอบว่า พระองค์นั้นมิได้พยากรณ์ ถ้าผู้ที่ภิกษุในพระพุทธศาสนา จะถือเคร่งครัดมาก ถ้าพระพุทธเจ้าไม่ให้กล่าว รับรองว่า ผู้ที่เป็นภิกษุของพระพุทธเจ้าไม่กล้า กล่าวแน่ แต่ ผู้ที่ มีหลวงพ่อสด เป็นพระพุทธเจ้า เขาจะพูดกัน

ในเว็บของ research.in.th ผมไม่ได้ตอบคำถามของคุณงง เพราะ เห็นว่าแกก็เหมือนคุณหมาติดเครื่องยนต์ มาเพ้อเจ้อรำพึงรำพันที่ไม่ได้เกี่ยวกับบทความที่ผมเขียนเข้าไป

อย่างไรก็ดี คุณงงแกคงส่งกองเชียร์มาเชียร์ที่นี่ด้วย เพราะ คุณ [IP: 125.27.15.187] 21 January 2010 07:32 เข้ามาให้ความเห็น ดังนี้

ผ่านมาเจอ โมทนา กับความเห็นที่ 4 ครับ...



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น