บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

คนบ้ากับคนปัญญาอ่อน


ในช่วงท้ายบทความ “Ritti Janson[04]” คุณรักเธอเสมอมาตีตื้นขึ้นมานิดหนึ่งที่ไปถาม อันธพาล Ritti Janson ว่า “อะไรคือหลักฐานนั้นครับ ใช่เอกสารและรูปถ่ายที่ให้ไว้ตามธรรมเนียมหรือเปล่า”

อันธพาล Ritti Janson เขาด่าคุณรักเธอเสมอมาไปอีกครั้งหนึ่ง แล้วนำหลักฐานมาแสดง ในความคิดเห็นที่ 94 [17 ก.พ. 51 11:33:56 ] ดังนี้

จากวิชชามรรคผลพิสดารเล่ม 1
นิจจัง-สุขขัง-อัตตา มันเป็นไตรลักษณ์ของพระธรรมวินัยไหนกันหรือครับจขกท มีปัญญาตอบไหมครับ ?

ในกระทูนี้ อันธพาล Ritti Janson เอา บทที่ 10 การพิจารณาพระไตรลักษณ์ ในหนังสือ“วิชชามรรคผลพิสดารเล่มแรก มาลงไว้เป็นหลักฐาน ดังนี้

กาย ๔ เบื้องต้น คือ กายมนุษย์  กายทิพย์ กายปฐมวิญญาณหยาบ และกายปฐมวิญญาณละเอียด เป็นกาย อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา 

นอกเหนือจากกายทั้ง ๔ นี้ออกไป คือ กายธรรมถึงกายธรรมละเอียดๆๆ และกายธรรมละเอียดเข้าไปทุกกายนั้น เป็นกาย นิจฺจํ สุขํ อตฺตา แท้

กายธรรมถึงกายธรรมอรหัตต์ เป็นผู้บอกว่า ๔ กายข้างต้นเป็นกาย อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา

แล้วพิจารณาพระไตรลักษณ์ และพิจารณาธรรมที่ตรงกันข้ามกับพระไตรลักษณ์ คือ นิจฺจํ สุขํ และอตฺตา สอดใส่ไปตามประเภทของกายทุกกาย คือ ถ้ากายตกอยู่ในประเภท อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา คือ ๔ กายข้างต้นนั้น ก็พิจารณาพระไตรลักษณ์

ส่วนกายที่ตกอยู่ในประเภทที่ตรงกันข้าม คือ นิจฺจํ สุขํ อตฺตา คือ ตั้งแต่กายธรรมเป็นต้นไป ก็พิจารณาตาม นิจฺจํ สุขํ อตฺตา

คุณรักเธอเสมอมา - [17 ก.พ. 51 11:34:07] ก็มาแสดงความเป็นสมองหมา ปัญญาควายไว้ในความคิดเห็นที่ 95 ดังนี้

เป็นวิธีสรุปแบบง่ายง่ายตามstyle  พี่ฤทธี   อีกแล้ว

ความจริง ผมพยายามจะเชียร์คุณรักเธอเสมอมาอยู่ เพราะ ช่วยเอาบทความของผมมาเผยแพร่ ถึงแม้จะเอามาแบบไม่บอกไม่กล่าวก็ตามเถอะ

แต่เห็นฝีมือสู้กับ อันธพาล Ritti Janson แล้ว เชียร์ไม่ลง  คุณรักเธอเสมอมา มันสมองหมา ปัญญาควายจริงๆ

ข้อคำถามของ อันธพาล Ritti Janson ที่ว่า “นิจจัง-สุขขัง-อัตตา  มันเป็นไตรลักษณ์ของพระธรรมวินัยไหนกันหรือครับ? จขกท มีปัญญาตอบไหมครับ?” นั้น

อันธพาล Ritti Janson มันก็สมองหมา ปัญญาควายพอๆ กันกับคุณรักเธอเสมอมา ระดับมันสมองมันพอๆ กัน ถึงเถียงกันไป เถียงกันมา ทำราวกับคนบ้ากับคนปัญญาอ่อนเถียงกัน

อันธพาล Ritti Janson มันอ่านหนังสือเข้าใจเมื่อไหร่ ขอให้ดูข้อความนี้ใหม่

ถ้ากายตกอยู่ในประเภท อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา คือ ๔ กายข้างต้นนั้น ก็พิจารณาพระไตรลักษณ์  ส่วนกายที่ตกอยู่ในประเภทที่ตรงกันข้าม คือ นิจฺจํ สุขํ อตฺตา คือ ตั้งแต่กายธรรมเป็นต้นไป ก็พิจารณาตาม นิจฺจํ สุขํ อตฺตา

หลวงพ่อวัดปากน้ำก็สอนถูกแล้ว ความเป็นสมองหมา ปัญญาควายของอันธพาล Ritti Janson ทำให้มันอ่านหนังสือไม่แตก

หลวงพ่อก็บอกชัดเจนว่า กายมนุษย์ กายทิพย์ กายรูปพรหม กายอรูปพรหม 4 กาย ก็พิจารณาไปตามพระไตรลักษณ์  ส่วนกายตรงข้ามพิจารณาตามนิจจัง สุขัง อัตตา

หลวงพ่อไม่ได้สอนว่า “นิจจัง-สุขขัง-อัตตาเป็นไตรลักษณ์” อันธพาล Ritti Janson มันตีความตามประสาบ้าของมันเอง

ประเด็นนี้ ผมสันนิษฐานว่า อันธพาล Ritti Janson เขาอ่านแค่หัวข้อ แล้วก็นึกว่า ความหมายของ “เนื้อหา” ในหัวข้อจะต้องอยู่ในขอบข่ายนั้นทั้งหมด

หัวข้อ คือ “การพิจารณาพระไตรลักษณ์” อันธพาล Ritti Janson มันอ่านหนังสือไม่ค่อยแตก เห็นคำอะไรในเนื้อหาก็นึกว่า อยู่ในนี้ทั้งหมด มันไม่เคยอ่านละเอียด ไม่มีความคิดในระดับวิจารณญาณ

อันธพาล Ritti Janson คงคิดว่าได้เปรียบ ในความคิดเห็นที่ 96 [17 ก.พ. 51 11:39:35] เข้ามากระทืบซ้ำใหญ่ ดังนี้

จาก วิชชามรรคผลพิสดารเล่ม 1

กล่าวว่า นิพพาน ปรุงแต่งด้วย ธาตุธรรมแก้วกายสิทธิ์  (???) เป็นไง? นิพพาน กลายเป็นสังขารไปเสียแล้ว นี่มันเป็นธรรมของศาสดาท่านไหนกันครับ?

ที่จริงแล้ว ผมไม่อยากจะกล่าวถึงเลยนะครับ เพราะถือว่าหลวงพ่อสด ท่านได้ละทิ้งวิชชานี้ไปแล้ว ก็แล้วกันไป

แต่ในเมื่อ จขกท พยายามที่จะรื้อฟื้นขึ้นมาอีก ฉะนั้น ก็ตอบผมด้วยนะครับว่า สิ่งที่เห็นอยู่นี่ เป็นธรรมของศาสดาท่านใดกัน?

ผมตอบให้ฟังก่อนเลยว่า ไม่ใช่ธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อย่างแน่นอน !!!!!!!

อันธพาล Ritti Janson ยกข้อความอันเป็นเนื้อหาจากบทที่ 33 เรื่อง ดูสัณฐานนิพพาน, ภพ 3, โลกันต์ในจักรวาล ที่ว่า

จักรวาลนี้มีสัณฐานกลม มีภูเขาเป็นเขตล้อมรอบ ภายในจักรวาลมีนิพพานอยู่ส่วนเบื้องบน เบื้องกลางคือภพ 3 เบื้องต่ำคือ ภพโลกันต์เป็นราก

นิพพานปรุงแต่งด้วยธาตุธรรมแก้วกายสิทธิ์ ใสสว่าง บริสุทธิ์ไปด้วยแก้วกายสิทธิ์ พื้นและอาศเบื้องบน และข้างขวาซ้าย ภายในนิพพานนั้นสำเร็จไปด้วยแก้วกายสิทธิ์ทั้งนั้น

ประเด็นนี้ ผมขออธิบายคร่าวๆ ก่อนว่า อันธพาล Ritti Janson มันบ้าของมันไปเอง ตีความเอง เออเอง อย่างไม่มีหลักวิชา

มีพุทธพจน์ที่ว่า “อายตนะนั้นมีอยู่” ซึ่งไม่ว่าจะเห็นใคร นักปริยัติ พุทธวิชาการ นักปฎิบัติธรรม มีความเห็นตรงกันว่า “นิพพานมีอยู่” ที่เถียงกันอยู่ทุกวันนี้ก็คือ “มีอยู่อย่างไร

ส่วนใหญ่ก็บรรยายในระดับความจริงสากล (General truth) ว่า สภาวะของนิพพานเป็นมีความสุข อยู่อย่างนั้น ตลอดไป ซึ่งก็คือ นิพพานเป็นนิจจัง สุขัง อัตตา

แต่บางท่านบางกลุ่มก็ว่า นิพพานเป็นนิจจัง สุขัง ไม่เถียง  แต่ยอมรับไม่ได้ว่าเป็น “อัตตา” นิพพานต้องเป็น นิจจัง สุขัง และอนัตตา

กลุ่มหลังนี่ ก็มีหัวหอกคือ พระประยุทธ์-พระเปลืองข้าวสุกประชาชน ซึ่งสารภาพมาอย่างหน้าเขกกะบาล แล้วก็ผลักซ้ำด้วยเท้าขวาว่า “ยังไม่ได้ศึกษาเลยว่า นิพพานเป็นอนัตตาอย่างไร

สำหรับคำถามของ อันธพาล Ritti Janson นั้นสามารถตอบได้ง่ายๆ เลยว่า  ก็ทุกคนยอมรับว่า นิพพานมีอยู่  แต่ไม่มีใครหน้าไหน มันอธิบายได้ว่า สภาพทางกายภาพของนิพพานเป็นอย่างไร

หลวงพ่อวัดปากน้ำอธิบายได้  มันก็ต้องรับฟังไว้ก่อน  แล้วคำว่า “ธาตุธรรมแก้วกายสิทธิ์” อันธพาล Ritti Janson ก็ต้องไปเอาความหมายของหลวงพ่อวัดปากน้ำมาตีความ ไม่ใช่ไปตีความว่า “ธาตุธรรมแก้วกายสิทธิ์  (???) เป็นไง? นิพพาน กลายเป็นสังขารไปเสียแล้ว

ก็อันธพาล Ritti Janson ไปเอาศัพท์ของหลวงพ่อวัดปากน้ำมาตีความใหม่ตามที่ตัวเองชอบ แล้วเอาไปวิพากษ์วิจารณ์  มันจะถูกหลักในด้านวิชาการได้อย่างไร

ขอแถมรูปสำหรับ อันธพาล Ritti Janson หน่อยดังนี้


 อย่าหาว่าผมไม่สุภาพ รูปนี้ อันธพาล Ritti Janson เขาเอามาด่าเจ้าของกระทู้ คือคุณรักเธอเสมอมา ผมก็เลยเอามาเผยแพร่ให้ อันธพาล Ritti Janson เสียเลย

คุณรักเธอเสมอมา [17 ก.พ. 51 11:39:48] เข้ามาแบบทุเรศในสายตาของผม ในความคิดเห็นที่ 97 ดังนี้

ผมเรียนพี่พี่ฤทธี อีกครั้ง โปรดฟังอีกครั้ง ครับกระทู้นี้ชื่อว่า หลวงพ่อสดเลิกสอนวิชชาธรรมกายจริงหรือไม่

เรื่องเนื้อหาในคำสอน  ผมยังมีปฏิบัติได้ไม้ถึงอ้อที่สำคัญคือ ตราบใดที่เรายังไม่ได้ปฏิบัติกรรมฐานให้เข้าถึงความเป็นพระอริยเจ้าก็อย่า เพิ่งรีบร้อนไปถกเรื่องพระนิพพานให้ยุ่งเลยครับ....เอาเพียงฟังหูไว้หูก็พอ

พูดง่ายๆ ก็คือเราปฏิบัติได้แค่ไหนก็ควรจะพูดเพียงแค่นั้น ไม่ควรไปตอบโต้หรือวิจารณ์ในสิ่งที่ตนไม่รู้ เพราะความไม่รู้นี่แหละอาจจะเป็นการเผลอไปลูบใบมีดโกนเข้าโดยไม่รู้ตัวก็ได้ ครับ"

เห็นคุณรักเธอเสมอมาตอบแบบนี้  ถ้าผมอยู่ใกล้ๆ ผมก็จะผลักด้วยรองเท้า ทั้งซ้ายและขวา ข้างละ 2 ที  ก็มึงไม่มีปัญญาอะไรเลย  แล้วมาตั้งกระทู้กับเขาทำไม

ลืมไปอีกแล้วว่า  คุณรักเธอเสมอมาเอาบทความของผมมาตั้งเป็นกระทู้ เฮ้อ...กลุ้มใจ 

อันธพาล Ritti Janson [17 ก.พ. 51 11:44:13] ก็ได้ใจใหญ่ เข้ามาขย่มอีกในความคิดเห็นที่ 98 ดังนี้

เอ .................... จขกท นี่มันยังกันครับผมก็เปิดโอกาสให้ จขกท สรุปเอาตามใจชอบแล้วนี่ครับ ผมเพียงแต่ให้ข้อมูลเอาใว้ประดับสติปัญญาว่า .........

ถ้า จขกท คิดว่า หลวงพ่อสด ยังไม่ละทิ้งวิชชาธรรมกาย ก็หมายความว่า จขกท กำลังกล่าวว่า หลวงพ่อสดกล่าวตู่พระธรรมวินัย

ผมเพียงแต่บอกกับคุณอย่างนี้ ก็เท่านั้นเอง จขกท มีปัญหาอะไรกับผมครับ ?

หึหึ

อันธพาล Ritti Janson [17 ก.พ. 51 11:47:24] ตามซ้ำขย้ำอีก ก็เมื่อคู่ต่อสู้เพลี่ยงพล้ำไปถึงขนาดนั้น ในความคิดเห็นที่ 99 ดังนี้

อันธพาล Ritti Janson เอาความเห็นของคุณรักเธอเสมอมา นำทางมาก่อน ดังนี้

ความคิดเห็นที่ 97
พูดง่ายๆ ก็คือเราปฏิบัติได้แค่ไหนก็ควรจะพูดเพียงแค่นั้น ไม่ควรไปตอบโต้หรือวิจารณ์ในสิ่งที่ตนไม่รู้
เพราะความไม่รู้นี่แหละอาจจะเป็นการเผลอไปลูบใบมีดโกนเข้าโดยไม่รู้ตัวก็ได้ครับ
รักเธอเสมอมา

แล้วกระทืบซ้ำด้วยข้อความนี้
จขกท ควรจะเก็บข้อความอันนี้ เอาใว้เตือนตนเองให้มากๆนะครับ มันคงจะดีต่อตัวของคุณเป็นอย่างมากทีเดียว ....................
    หึหึ

ไอ้หน้ามึน คุณรักเธอเสมอมา [17 ก.พ. 51 11:52:00] ยังจะมาเสนอหน้าอีก ในความคิดเห็นที่ 100 ดังนี้

ผมนับถือปฎิภาณ  สติปัญญาและชื่นชมในความรู้ของพี่พี่ฤทธี ยกให้เป็นพี่ยกกำลังสอง     ไม่มีปัญหาอะไรกับพี่ครับ

แต่สิ่งที่พี่กำลังจะแสดงพี่ได้แสดงไว้ในกระทู้แนะนำแล้วผมเห็นแล้วครับ ผมไม่กล้าแสดงความเห็นในเรื่องนั้น เพราะยังปฏิบัติไม่ถึงไหน

เพียงแต่ไม่ยอมรับว่าหลวงพ่อสดเลิกสอนวิชาธรรมกายไม่ได้มีเจตนาอื่นครับ
ขอให้เจริญในธรรมครับ  พี่พี่ฤทธี

ตอนนี้ ผมว่า ผมจะด่าคุณรักเธอเสมอมา มากกว่า อันธพาล Ritti Janson ไปเสียแล้ว อ่านแล้วขัดใจ มันทำไมถึงโง่อย่างนั้น


อันธพาล Ritti Janson [17 ก.พ. 51 11:55:24] มันก็เลยได้ใจใหญ่ เข้ามากระทืบใหญ่ในความคิดเห็นที่ 101 ดังนี้

จขกท อย่าบอกนะครับว่า ที่มาพูดฉอดๆอยู่นี่ แต่ จขกท กลับไม่มี  และไม่ได้ศึกษาตำราของหลวงพ่อสดเลย !!!!!!

ผมไม่ได้อ้างแค่ภาพถ่ายของหลวงพ่อหรอกนะครับ ผมไม่ได้มีสันดานมักง่ายขนาดนั้น(?) และถ้าจะเอาหลักฐานเพิ่มเติมก็บอกได้นะครับ

แล้วผมจะ "อุตส่าห์" เจียดเวลา เอาหลักฐานมาฝาก !!!!!!   เฮอะ เฮอะ ๆๆๆๆๆ

ไอ้หน้ามึน คุณรักเธอเสมอมา [17 ก.พ. 51 12:06:19] ยังจะมาเสนอหน้าอีก ในความคิดเห็นที่ 102 ดังนี้

ขอบคุณครับพี่  เวลาไปตัดผม ผมกลัวมีดโกนที่สุดโดยเฉพาะตอนช่างโกนแถวแถวคอผมไม่ได้แม้แต่จะคิดว่า พี่มีสันดานมักง่ายและถ้าพี่จะกรุณาเอาหลักฐานเพิ่มเติมก็ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ

หมดกัน หมดศักดิ์ศรี ไม่มีอะไรเหลือ

ในความคิดเห็นที่ 103 คุณหมอมาเอง (drxbeam) [17 ก.พ. 51 12:30:48] คุณหมอจอมระเบียบ เข้ามาให้ความเห็น ดังนี้

หึหึหึ  ผมเห็นรูปใน คห. 78 แล้ว ผมเลยนึกหน้าของ คุณ ฤ.ธ. ได้เลย  ขอบคุณนะครับที่อุตส่าห์เผยใบหน้าออกมาซะที

อันธพาล Ritti Janson - [17 ก.พ. 51 12:44:26] เข้ามาตอบในความคิดเห็นที่ 104 ดังนี้

drxbeam ควรจะรู้ข้อเท็จจริงบางอย่างเอาไว้ด้วยว่า รูปนั้น เป็นรูปที่สาวกธรรมโกยบางตน ชอบใช้ต่างหาก และผมก็เพียงแต่ ทำล้อเลียนเขาเท่านั้น ...

อย่าปรุงแต่งไปให้มากเกินไปนัก เพราะมันจะดูโง่เกินจำเป็น บวชเรียนมาแล้ว ก็อย่า เนรคุณพระศาสดา นะครับ !!!!!!

หึหึ

ผมก็เพิ่งรู้ว่า อันธพาล Ritti Janson เข้ามาให้ความเห็นกระทู้นี้ 2 ชื่อ ชื่อแรกคือ constant ชื่อที่สองก็คือ Ritti Janson  อาจจะมี 3 ชื่อด้วยก็ได้ อีกชื่อหนึ่งคือ “หมูมันเยิ้ม”

รูปที่ผมโชว์ไปข้างบนนั้น ผู้เอามาลงคือ constant....



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น