บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

ศัทธาในพระพุทธ


คุณ [IP: 223.206.46.221] 20 January 2011 04:08 โดนผมวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการใช้ภาษา และการเขียนไม่ตรงกับประเด็น ถึงกับโมโหลมออกหู  เข้ามาให้เพื่อให้ซ้ำอีก ดังนี้ (20 January 2011 04:08)

เรียนท่าน ดร. ผู้มีจิตใจอันคับแคบหลงในตน ข้าพเจ้ามิได้เป็นนักวิชาการและมิได้เรียนจบปริญญาเอกเช่นท่านแต่ประการใด เพียงแต่จบการศึกษาที่ต่ำต้อยกว่าท่านมาก

ด้วยสติปัญญาความรู้อันน้อยนิดของข้าพเจ้าจึงขอกราบเรียนท่านด้วยความเคารพดังนี้ว่า การพิมพ์พิดหรือพิมพ์ถูกต้องตามหลักวิชาการไม่ใช่ประเด็นสำคัญเท่าเนื้อหาในบทความ

และข้าพเจ้าไม่ได้มีเจตนา จะกล่าวถึงบทความพาดพิงถึงพระคุณเจ้าหลวงพ่อสด ว่าด้วยเรื่องจะเลิกสอนวิชชาธรรมกายหรือไม่นั้นไม่ได้เป็นประเด็นที่ข้าพเจ้าใส่ใจเลย

เพียงแต่ที่ข้าพเจ้าเข้ามาอ่านบทความของท่าน ดร. เพื่อศึกษาคำว่าวิชชาพระธรรมกายตามความเข้าใจของท่านเพื่อประกอบการพิจจารณาตามความสามาถรของสติปัญญาที่ข้าพเจ้าพึงมีเท่านั้น

ดังจะเห็นได้ว่าข้าพเจ้าไม่ได้หยิบยกท่านพระคุณเจ้าหลวงพ่อสดขึ้นมาอ้างอิงในข้อความข้างต้นที่ข้าพเจ้าเขียนแต่ประการใด กรุณาจับประเด็นใจความสำคัญของเจตนาข้อความของข้าพเจ้าด้วย

" แต่ข้าพเจ้าพูดถึงท่าน ดร. และวิธีการนำเสนอของท่านโดยตรงต่างหาก (จะพูดว่าตำหนิท่านเป็นนัยก็ว่าได้) ขอท่านอย่าได้หลงประเด็นไปไกลกว่านี้เลย "

ความรู้อันน้อยนิดของข้าพเจ้า ไม่มีความจำเป็นต้องปั้นแต่งคำพูดดูถูกเหยีดหยามผู้อื่นที่ด้อยกว่าหรือสูงกว่าเพียงเพื่อตอบสนองคาดหวังสร้างประเด็นให้ตนเองดูเหนือกว่าผู้อื่น(อวดตัวว่าเป็นผู้รู้)

ข้าพเจ้ามีเจตนาดีเพื่อสกิตสติของท่านเท่านั้น ว่า การยุแยงให้พุทธศาสนิกชนเกิดการหมางใจขุ่นเคืองกันเป็นอกุศลผิดหลักธรรมขั้นพื้นฐานที่ชาวพุทธทั้งหลายไม่พึงปฏิบัติ ควรละเว้นเสีย

ซึ่งข้อนี้ท่าน ดร.ผู้เป็นวิทยากรสอนปฏิบัติก็คงทราบดีในหลักจริยธรรมธรรมพื้นฐาน หรือท่านไม่ได้สอนลูกศิษย์ของท่านในพื้นฐานข้อนี้(เรื่องอื่นที่สูงกว่านี้คงไม่ต้องอ้างถึงเพราะทราบกันดีอยู่แล้ว)

แตกต่างจากการนำเสนอที่เป็นกลางรับฟังหลากหลายแง่มุมเปิดกว้าง แสดงความคิดเห็นเป็นวิทยาทาน ไม่ดูถูกเหยีดหยามผู้ใดให้ข้อคิดผู้อ่านนำไปพิจารณากันต่อ(แต่ท่าน ดร. กลับทำตรงกันข้าม)

ท่านประกาศตนเป็นถึงวิทยากรผู้สอนปฏิบัติและมีภูมิความรู้คุณวุฒิที่สูงส่ง แต่กลับใช้คำว่า โง่ และปัญญาอ่อนเปลียบเป็นผู้อื่น ในบทความของท่าน(ขอท่านทั้งหลายพิจารณาด้วยตนเอง)

หากท่านคาดหวังให้มีนักวิชาการลงมาเล่นประเด็นนี้กับท่าน เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนั้น ก็ขอให้ท่านกลับไปอ่านทบทวนบทความที่ท่านเขียนข้างต้น โดยเฉพาะนายปัญญาอ่อนคนแรก

ซึ่งเป็นกระจกสะท้อนตัวท่านเองได้เป็นอย่างดีในปัจุบัน(ขอจงใช้สติ ปัญญาอันพึงมีของท่านทั้งหลายพิจารณา)

และหากท่านต้องการข้อมูลที่เป็นวิชาการ ก็ลองจดเป็นสถิติดูว่า มีข้อความใดบ้างที่สนับสนุนท่าน

ข้อความใดบ้างที่เห็นต่างจากท่าน บุคคลผู้มาเยือนมีนักวิชาการหรือไม่หรือมีแต่

ปุถุชนคนธรรมดาที่มีความรู้น้อยกว่าท่านเช่นเดียวกับข้าพเจ้าเข้ามาอ่านบทความของท่าน นับตั้งแต่วันที่ เดือน ปี พ.ศ. ใดก็คงจะตอบเจตนาของท่านให้ประจักในใจได้ชัดเจนทีเดียว

ทั้งหมดที่กล่าวนี้ข้าพเจ้าไม่ได้พูดประเด็นวิชาการประการใดๆไม่มีเจตนาให้เกิดโทสะ

เพียงแต่มีเจตนาเพียงเพื่อ สกิดสติของท่านผู้เจริญเท่านั้น แต่หากท่านยึดมั่นถือมั่นหลงในตนไม่พึงรับพิจารณาข้อความของผู้อ่อนการศึกษา ข้าพเจ้าก่ขอขมาอโหสิกรรม

ขอท่าน ดร. และผู้อ่านทั้งหลายจงมีความสุขสวัสดี เจริญด้วยปัญญาตั้งอยู่ด้วยความไม่ประมาท

ด้วยความเคารพ : ศัทธาในพระพุทธ

ผมตอบไป ดังนี้ (20 January 2011 08:18)

เรียน คุณ [IP: 223.206.46.221]

คุณเพ้อเจ้อ ตั้งชื่อให้ใหม่ก็ได้ ว่างมากหรือไง ผมว่าคุณควรไปสอนตนเองให้ดีกว่านี้จะดีกว่า

มีคนมาดูหมิ่นโจมตีหลวงพ่อวัดปากน้ำ รวมถึงผมด้วย แล้วผมรู้ว่าความจริงมันเป็นอย่างไร ผมก็มาชี้แจงให้ประชาชนทราบ มันผิดตรงไหน

การที่จะยืนยันว่า หลวงพ่อวัดปากน้ำเลิกสอนวิชชาธรรมกาย ก็ต้องเอาหลักฐานของหลวงพ่อวัดปากน้ำมายืนยัน ไม่ใช่เอาหนังสือของคนอื่นมายืนยัน

แบบนี้ ในทางวิชาการ เขาเรียกปัญญาอ่อนหรือโง่ อาจารย์ไม่ให้ผ่านแน่ ถ้าเขียนรายงานแบบนี้

แต่มีคนเชื่อถือกันมาก มันก็ทั้งปัญญาอ่อนทั้งโง่ ทั้งคนเขียนและคนเชื่อ ผมก็ทำถูกต้องแล้ว ในฐานะลูกศิษย์ที่ดี และนักวิชาการที่ดี

คุณเพ้อเจ้อ คุณไปนั่งนึก นอนนึกให้ดี คุณโจมตีผมไว้อย่างไร ผมไม่ได้เป็นตามนั้นหรอก แต่คุณนั่นแหละเป็น เพราะใจคุณนึกอยู่ตลอดเวลา

ผมไม่ได้กราบขอร้องให้คุณมาเตือนผมเลย เพราะ ผมและคุณก็รู้ว่า ไม่ว่าในทางโลก ทางธรรม ทางบารมี ผมสูงกว่าคุณทั้งนั้น

คุณมาเตือนผมด้วยเหตุผลหรือมาตรฐานใด อย่างนี้ฝรั่งท่านว่า None of your business จะแปลออกหรือเปล่าก็ไม่รู้

ไปศึกษาให้มากขึ้นก่อน แล้วค่อยมาให้ความเห็นใหม่ ถ้าเก่งจริงไปเขียนบล็อกของตนเอง จะต้องไม่มานั่งช้ำใจแบบนี้

คุณ ศัทธาในพระพุทธ [IP: 223.206.225.121] 20 January 2011 09:55 อาการแกหนักกว่าคางคก คือ คางคกนี่ ทางยางหัวตกแล้วจะรู้สึก  คุณศัทธาในพระพุทธ แกทั้งโง่ ทั้งมึน ยังจะเข้ามาให้ความเห็นอีก ดังนี้

น่าเสียดายนะครับ ดร. ผู้ประสิทธิประสาทรอบรู้วิชา เอาเถอะครับเช่นนั้นข้าพเจ้าก่ขอขมาอภัย และคาดว่าท่าน ดร. คงไม่เกิดโทสะประการไดต่อเจตนาของข้าพเจ้า ข้าพเจ้านับถือในมานะ...ของท่าน และขอลา

ผมก็เลยซ้ำเติมไปอีกที ดังนี้ (20 January 2011 16:10)

เรียน คุณศัทธาในพระพุทธ

คุณศรัทธาในพระพุทธ (เขาเขียนแบบนี้) คุณก็ไม่น่าเข้ามาเขียนตั้งแต่แรก ไปไม่เป็นแล้วหรือไง

ผมเองนั้น เขียนอะไรไปผมมีจุดประสงค์ของผม ในบันทึกนี้ ก็ต้องการบอกให้ประชาชนทราบว่า การจะเชื่อว่าใครทำอะไร ต้องอ่านหนังสือของท่านผู้นั้น

หลวงพ่อวัดปากน้ำไม่เคยเขียนหรือพูดไว้ใน ณ ที่ใดเลยว่า ท่านเลิกสอนวิชชาธรรมกาย

ลูกศิษย์สายพอง-ยุบ พยายามหาหลักฐานกันจัง และหลักฐานนั้น มาจากหนังสือเล่มอื่นๆ ของคนอื่นๆ ที่ไม่ใช่ศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อวัดปากน้ำเสียด้วย

มีคนชอบเขียนเผยแพร่บ่อยๆ ว่า หลวงพ่อวัดปากน้ำเลิกสอนวิชชาธรรมกาย คนที่ปฏิบัติธรรมตามสายวิชาธรรมกายอยู่นั้น โง่........

อย่างนี้ผมก็โดนด้วย ก็ผมเป็นวิทยากรสอนปฏิบัติธรรมแบบวิชาธรรมกาย สอนเด็กเป็นหมื่นๆ คนไปแล้ว เด็กก็เห็นดวงธรรมและกายธรรม ร้อยละ 95 ขึ้นไป

ผมก็ต้องมาแก้ต่างให้ตัวผมเอง และหลวงพ่อวัดปากน้ำ

คุณศรัทธาในพระพุทธ (เขาเขียนแบบนี้) มายุ่งอะไรกับเขาเล่า....... หรือคุณก็เป็นคนในสายพอง-ยุบ จึงเดือดร้อน อยู่เฉยๆ ไม่ได้

ที่คุณขอขมานั้น ผมไม่ให้อภัย เรื่องโทสะ ผมไม่มีโทสะอะไรกับคุณเลย สมเพทเวทนามากกว่า

ไม่มีเหาหาเหาใส่หัว ไม่มีเรื่องหาเรื่องใส่ตัว แท้ๆ ...........



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น