บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

Ritti คือ ปัญญาอ่อนคนนั้น

บทความชุดนี้ ยังอยู่ในส่วนของข้อโต้แย้งเกี่ยวกับหลวงพ่อวัดปากน้ำเลิกสอนวิชาธรรมกายหรือไม่  ที่ผมไปเขียนเป็นบทความว่า “หลวงพ่อวัดปากน้ำเลิกสอนวิชาธรรมกาย เรื่องปัญญาอ่อน ของคนปัญญาอ่อน”

แต่คุณ Ritti Janson เข้ามาโต้แย้งอย่างรุนแรงหลายกระทู้มาก  ด่าเจ้าของกระทู้อย่างรุนแรงมาก อันนี้ผมเขียนตามความคิดของท่านผู้ร่วมโต้แย้งท่านอื่นๆ นะครับ   

สำหรับผม ด่ากันแค่นี้ธรรมดาๆ ครับ

สิ่งที่ผู้ร่วมโต้แย้งกันไม่ “เอะใจ” และไม่เฉลียวใจเลยก็คือ ทำไมคุณ Ritti Janson จะต้องมาโต้แย้งอย่างรุนแรงในกระทู้นี้  เนื้อหาของกระทู้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับ คุณ Ritti Janson เลย และก็ไม่มีใครถามในช่วงการโต้แย้งกันเสียด้วย

ที่คุณ Ritti Janson แกเดือดเนื้อร้อนใจ จนออกมาด่าคนโน้นคนนี้ ลิ้นพันกันไปหมดก็เพราะ คนปัญญาอ่อนในบทความของผมนั้นก็คือ Ritti Janson นี่เอง

แกอ่านบทความแล้ว แกก็ต้องจำได้ ว่าผมวิพาษก์วิจารณ์เขา  คุณรักเธอเสมอมาก็ไม่รู้เรื่องว่า ทำไม Ritti Janson จึงออกฤทธิ์ออกเดชมากถึงขนาดนั้น

คุณ Ritti Janson เขามาให้ความเห็นครั้งแรกของกระทู้นี้ เป็นความคิดเห็นที่ 8 ของ - [16 ก.พ. 51 08:21:13] เข้ามาสั้นๆ ง่ายๆ ว่า

ไอ้พวกกะล่อน

ตรงนี้สันนิษฐานว่า Ritti Janson กำลังมึนๆ ไม่รู้จะตอบอย่างไร  รู้ว่าบทความนี้ วิพากษ์วิจารณ์เขาแน่ๆ  Ritti Janson หายจากกระทู้ไปนานมาก เข้ามาอีกทีก็ความคิดเห็นที่ 46 โดยเข้ามาโต้แย้งกับความคิดเห็นที่ 45 ของคุณรักเธอเสมอมา

ผมขอเสนอความเห็นที่ 45 ของคุณ รักเธอเสมอมา - [16 ก.พ. 51 11:24:13] ก่อน ดังนี้

"...พระพุทธศาสนามีธรรมคำสั่งสอนที่ลึกซึ้ง และเป็นของปัญญาชน ที่ต้องพินิจพิจารณา จะเห็นถึงความมหัศจรรย์ ในธรรมของ พระผู้มีพระภาคเจ้า บรมศาสดา ที่ไม่ปล่อยให้พุทธบริษัท ต้องมีความสงสัย ในพระธรรมของพระองค์

เมื่อท่านได้แสดงพุทธพจน์ว่า นิพพาน มิใช่สภาวธรรม เป็นสิ่งตรงกันข้าม เพราะสภาวธรรม ย่อมมีเกิด แก่ เจ็บ ตาย แต่ นิพพานเป็นอายตนะหนึ่ง ซึ่งอยู่นอกเหนือ จากสภาวธรรมทั้งปวง

ด้วยความเป็นอายตนะนิพพานนั้นเอง จึงอาจทำให้ผู้ปฏิบัติถึงนิพพาน จะเกิดความเพลิดเพลินลุ่มหลงในนิพพานขึ้นได้

พระพุทธองค์จึงได้ตรัสเตือน พระเถระทั้งหลาย ณ โคนต้นสาละ ในป่าสุภวัน ใกล้เมืองอุกกัฏฐะปรากฏในพระไตรปิฎก (บาลี มูลปริยายสูตร มู.ม. ๑๒/๑๐/๙) ว่า

"...ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย แม้ตถาคตผู้เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้ชอบเอง ก็รู้ชัดซึ่งนิพพาน ตามความเป็นนิพพาน

ครั้นรู้นิพพานตามความเป็นนิพพานแล้ว ก็ไม่ทำความมั่นหมายซึ่งนิพพาน ไม่ทำความมั่นหมายในนิพพาน ไม่ทำความมั่นหมายโดยความเป็นนิพพาน ไม่ทำความมั่นหมายว่านิพพานเป็นของเรา ไม่เพลิดเพลินลุ่มหลงในนิพพาน

ข้อนี้เพราะเหตุไรเล่า? เรากล่าวว่า เพราะรู้ว่า ความเพลิดเพลินเป็นมูลแห่งทุกข์ และเพราะมีภพจึงมีชาติ เมื่อเกิดเป็นสัตว์แล้ว จึงต้องมีแก่ และตาย เพราะเหตุดังนี้ ตถาคตจึงตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ฯลฯ"

ดังพระไตรปิฎกได้กล่าวว่า นิพพานเป็นอายตนะหนึ่ง ดังนั้นในนิพพานมีแต่ความสุข เมื่อมีความสุข จึงทำให้เกิดความเพลิดเพลินลุ่มหลงได้

(นี่เป็นที่มาของพุทธภาษิตที่ว่า "นิพฺพานํ ปรมํ สุขํ" แปลว่า พระนิพพาน เป็นสุขอย่างยิ่ง ) เจือสมกับที่ปรากฏในพระไตรปิฎกว่า นิพพานสัมผัสได้เป็นอายตนะ (ตามพระไตรปิฎก...อ้างแล้ว)

อายตนะ ก็คือลักษณะของอัตตา ฉะนั้นองค์พระทศพล จึงทรงมีพุทธาธิบายไว้ ปรากฏในพระไตรปิฎกบาลีเถรวาท เป็นหลักฐานสืบมา

Ritti Janson [16 ก.พ. 51 11:57:02] เข้ามาให้ความคิดเห็นที่ 46 โดยคัดลอกส่วนท้ายความเห็นของคุณรักเธอเสมอมาก่อน แล้ววิพากษ์วิจารณ์ต่อท้าย งนี้

ความคิดเห็นที่ 45
(นี่เป็นที่มาของพุทธภาษิตที่ว่า "นิพฺพานํ ปรมํ สุขํ" แปลว่า พระนิพพาน เป็นสุขอย่างยิ่ง ) เจือสมกับที่ปรากฏในพระไตรปิฎกว่า
นิพพานสัมผัสได้ เป็นอายตนะ (ตามพระไตรปิฎก...อ้างแล้ว) อายตนะ ก็คือลักษณะของ อัตตา
ฉะนั้นองค์พระทศพล จึงทรงมีพุทธาธิบายไว้ ปรากฏในพระไตรปิฎกบาลีเถรวาท เป็นหลักฐานสืบมา
รักเธอเสมอมา
***************************************************

1) นี่หมายถึง จิตที่เกิดดับนั้นเอง มีนิพพานเป็นอารมณ์ จะเอาหลักฐานไหมล่ะ มีอยู่มากมายเต็มไปหมด !!!!!!

2) อายตนะซ่นตีนน่ะสิ ที่เป็นลักษณะของอัตตา (?)
อายตนะนั้นก็ว่างจากตนและของๆตน ...... ขอให้รับทราบเอาไว้ แล้วก็อย่ามาเสือกมั่วนิ่มอย่างนี้อีก มันบาป !!!!!! น่าสมเพชจริงๆ

เห็น Ritti Janson มาแรงอย่างนั้น ถึงกับยกซ่นตีนนำหน้ามาก่อน คุณรักเธอเสมอมา รักเธอเสมอมา - [16 ก.พ. 51 11:59:52] จึงออกมาตัดสวาทขาดอีโต้ ในความคิดเห็นที่ 47ว่า

คุณ  Ritti Janson  ผมไม่สนทนากับคุณคุณจิตหยาบเหลือเกิน

อันธพาล Ritti Janson [16 ก.พ. 51 13:01:44] เข้ามาตอบอีกใน ความคิดเห็นที่ 49 ว่า

ทำไม ?     ไม่รู้จัก ซ่นตีน รึไง ?     โง่ หรือว่า ดัดจริตกันแน่ ?

ต้องตั้งชื่อให้ Ritti Janson ว่า อันธพาล Ritti Janson ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป

เท่าที่ผมนำเสนอมานี้  ถ้ามองในภาพรวมแล้ว และช่างสังเกตกันหน่อย ก็จะเห็นว่า “ทำไม อันธพาล Ritti Janson จึงโมโหรุนแรงเกรี้ยวกราดถึงขนาดนั้น

เข้ามาครั้งแรกแค่ว่า “ไอ้พวกกะล่อน” พอครั้งที่สอง เอาซ่นตีนนำหน้ามาเลย แค่เวลาไม่กี่ชั่วโมงเอง คือ อันธพาล Ritti Janson เข้ามาครั้งแรกประมาณ 8.00 น. อีกครั้งหนึ่งประมาณ 12.00 น. ครั้งที่สามนี่ ประมาณ 13.00 น.

คุณรักเธอเสมอมา แกก็คงงงๆ อยู่เหมือนกัน ทำไมกูโดนจัดหนักถึงขนาดนี้  ข้อเขียนของคุณรักเธอเสมอมา ก็โอเค ไม่มีปัญหาอะไร ไม่ได้กล่าวหาไปที่ อันธพาล Ritti Janson ด้วย

สิ่งที่คุณรักเธอเสมอมาไม่รู้ก็คือ  บทความต้นเหตุคือ บทความ “หลวงพ่อวัดปากน้ำเลิกสอนวิชาธรรมกาย เรื่องปัญญาอ่อนของคนปัญญาอ่อน” นั้น  ผมเขียนไว้เพื่อ “ด่า” อันธพาล Ritti Janson เอง

แต่ผมไปเขียนไว้ในบล็อกของผม คนก็ไม่ค่อยรู้มากเท่าที่พันธุ์ทิพย์ คุณรักเธอเสมอมาเอามาลงไว้ที่นี่ อันธพาล Ritti Janson ถึงกับธาตุไฟแตก ฟาดงวง ฟาดงา ฟาด... ไปหมด

5555555555555555555....................



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น