บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

ขอให้จิตสงบเงียบทำไม



มาดูการโกหกพกลมของมหาโชดก อันเป็นสาเหตุให้ต้องตนนรกกันต่อ

ข้อให้ดูข้อความที่ผมเน้นด้วยการขีดเส้นใต้ด้วยเส้นสีน้ำเงินก่อน  ตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก เป็นเรื่องสำคัญที่ยืนยันได้ว่า มหาโชดกไม่ได้เชื่อการสอนของพระพม่านัก  การสอนของท่านจึงมั่วไปหมด

ข้อความที่ว่าก็คือ “แล้วจึงนั่ง ให้นั่งนานประมาณ ๕๐ นาที หรือ ๑ ชั่วโมง”  ตรงนี้ ผมอยากจะถามจริงๆ ว่า “ให้นั่งทำห่าอะไร”  

แล้วให้นั่งแบบไหน ภาวนาอะไร หรือให้นั่งเล่นฆ่าเวลาไปเฉยๆ

การให้ “นั่งนานประมาณ ๕๐ นาที หรือ ๑ ชั่วโมง”  แบบนี้ สาวกของพระพม่ากลุ่มอื่นๆ ไม่ทำกัน  ทำแต่พวกสาวกของพระมหาโชดกเท่านั้น

ผมก็พยายามอ่านมานานแล้วว่า ตรงนี้จะให้ปฏิบัติแบบไหน แต่ยังไม่พบหลักฐานเลย เห็นแต่ว่าให้ทำกันให้นานเท่าไหร่ก็ได้ เท่าที่ทำได้

การสอนของพระพม่านั้น ผมงานมาเกือบทั้งหมดทุกสาขาในประเทศไทย  คำสอนของพระพม่าที่แปลเป็นภาษาอังกฤษเอง ผมก็ตามไปอ่าน เพราะ บังเอิญผมจบปริญญาเอกที่อังกฤษด้วย  จึงบังเอิญอ่านภาษาอังกฤษได้บ้าง

ไม่มีกลุ่มไหนของสาวกพระพม่าที่จะให้มา “นั่งนานประมารณ ๕๐ นาที หรือ ๑ ชั่วโมง”  แบบนี้  ทุกกลุ่มจะเน้นให้มีสติรู้สึกตัวตลอดเวลาเท่านั้น 

ไม่ให้เอาสติไปทำอย่างอื่นเลย

ขอให้ดูหลักฐานจากหนังสือของมหาโชดกเองดังนี้



จะเห็นว่า การอธิษฐานว่า ขอให้จิตสงบเงียบ ตั้งแต่ 5 นาที จนถึง 72 ชั่วโมงนั้น มหาโชดกก็ไม่บอกว่า ให้ทำอย่างไร  คือ ให้นั่งเงียบไปเฉยๆ หรือนั่งภาวนาพุทโธ หรือให้ทำอย่างไร

ตรงนี้ ผมยืนยันเลยว่า มหาโชดก “พบ” ข้อบกพร่องการสอนของพระพม่า จึงพยายามพัฒนาให้ดีขึ้น แต่ด้วยความสมองหมา ปัญญาควายของมหาโชดก จึงไม่รู้จะพัฒนาอย่างไร ก็เลยทำมั่วๆ ให้นั่งไปอย่างนั้นเอง

สำหรับที่มาของการพัฒนาแบบมั่วๆ ดังกล่าว ขอให้ดูการตารางเปรียบเทียบวิสุทธิ 7 กับ วิปัสสนาญาณ 16  กันอีกสักครั้งหนึ่ง

ศีลวิสุทธิ
1.  ปาฏิโมกขสังวรศีล
2.  อินทรียสังวรศีล
3.  อาชีวปาริสุทธิศีล
4.  ปัจจัยสันนิสิตศีล
จิตตวิสุทธิ
-  อุปจารสมาธิ
-  อัปปนาสมาธิ ในฌานสมาบัติ
ทิฏฐิวิสุทธิ
1.  นามรูปปริจเฉทญาณ
กังขาวิตรณวิสุทธิ
2.  นามรูปปัจจัยปริคคหญาณ
มัคคามัคคญาณทัสสนวิสุทธิ

3.  สัมมสนญาณ
4.  อุทยัพพยานุปัสสนาญาณ (ตรุณอุทยัพพยญาณ)
ปฏิปทาญาณทัสสนวิสุทธิ

4.  อุทยัพพยานุปัสสนาญาณ (พลวอุทยัพพยญาณ)
5.  ภังคานุปัสสนาญาณ
6.  ภยตูปัฏฐานญาณ
7.  อาทีนวานุปัสสนาญาณ
8.  นิพพิทานุปัสสนาญาณ
9.  มุจจิตุกัมยตาญาณ
10.  ปฏิสังขานุปัสสนาญาณ
11.  สังขารุเบกขาญาณ
12.  สัจจานุโลมิกญาณ
ญาณทัสสนวิสุทธิ

13.  โคตรภูญาณ
14.  มัคคญาณ
15.  ผลญาณ
16.  ปัจจเวกขณญาณ

ขอให้ดูตรงจิตตวิสุทธิ ตรงนี้ในคัมภีร์วิสุทธิมรรคก็คือ การปฏิบัติฌาน 1-8 แบบอนุโลม-ปฏิโลม ซึ่งอยู่ในส่วนของสมาธินิเทศ

มหาโชดกนั้น เกลียดฌานแบบพระพม่า จึงไม่มีการทำสมถะกรรมฐาน หลอกตัวเองไปว่า สามารถทำวิปัสสนากรรมฐานโดยไม่ผ่านสมถะกรรมฐานก็ได้

เมื่อไม่ผ่านฌาน 1-8 มาก่อน ก็ไม่มีทางที่จะไปวิปัสสนากรรมฐานได้  ดังนั้น มหาโชดกจึงไปคิดเอา การอธิษฐานว่า ขอให้จิตสงบเงียบ ตั้งแต่ 5 นาที จนถึง 72 ชั่วโมงนั้น มาแทน

แต่อย่างที่ผมบอกไปแล้วหลายครั้งว่า มหาโชดกไปเรียนที่ประเทศพม่า แบบไม่รู้ภาษาพม่า เพียง 9 เดือน แล้วจะได้อะไรกลับมา

ท่านก็ได้เพียง “ความโง่” กลับมาเท่านั้น

ต่อมาคือ ข้อความที่ขีดเส้นใต้สีแดงที่ว่า

ท่านเล่าว่า เห็นพระสงฆ์เป็นจำนวนมาก อยู่ที่ศาลาโรงฉัน ท่านก็ไปร่วมอยู่กับพระเหล่านั้น ให้ท่านกำหนดว่า “เห็นหนอๆ” ประมาณ ๖-๗ ครั้ง ภาพนั้นจึงค่อยๆ หายไป แสดงว่า สมาธิยังอ่อน

นี่ก็เป็นการโกหกคำโตของมหาโชดกอีกเช่นเคย  เป็นการโกหกที่จับได้จากความไม่สมเหตุสมผลให้การเขียนเอง

ตรงนี้เป็นการสอบอารมณ์  ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับในทางโลกก็คือ การสอบปากเปล่า  คือถามกันไป ตอบกันมา  การสอบแบบนี้ ไม่ใช่จะต้องมาปฏิบัติกันตรงนั้น และแก้ไขกันตรงนั้น 

มันจะต้องเป็นการแนะนำ และให้ไปปฏิบัติต่อ แล้วเอามาคุยกันใหม่ในภายหลัง ข้อเขียนดังกล่าวจึงเป็นการเขียนที่โกหก และเป็นการโกหกที่ไม่แนบเนียน 

สำหรับการที่กล่าวว่า เห็นหนอๆ แล้วพระหายไปก็เป็นการโกหกอีกเช่นเคย แต่จะไปเขียนรวมกันในบทความต่อไป 




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น