บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

หลักต้ดสินพระธรรมวินัย


ความคิดเห็นที่ 9 มาจากคุณงบน้อย - [16 ก.พ. 51 09:04:05] เข้ามาถาม ดังนี้

ถ้าวิชาธรรมกายเป็นของแท้ ของดีขนาดนั้น ถ้าผู้ใดไม่สำเร็จธรรมกายจะไม่มีทางถึงนิพพาน ทำไมพระไตรปิฎกจึงไม่มีธรรมกายสูตรเลยล่ะครับ

เพราะปกติถ้าพระพุทธเจ้าได้ตรัสสอนเรื่องอะไรที่สำคัญแก่ใครก็จะมีบันทึก เป็นพระสูตรนั้นๆอธิบายถึงที่มาว่า ตรัสสอนแก่ผู้ใด มีอะไรเป็นเหตุ มีเนื้อความโดยพิสดารเป็นอย่างไร

แต่นี่เห็นแต่มีคำว่าธรรมกายปรากฏอยู่ไม่กี่แห่งและท่านก็ไม่ได้ตรัสให้รายละเอียดไว้ตรงไหนเลยว่าเป็นสุดยอดวิชาปราบมารสะท้านโลก มีขั้นตอนการฝึกอย่างไร ฝึกเสร็จแล้วต้องไปรบกับพระพุทธเจ้ามารอย่างไร (ผมเป็นผู้มาใหม่ รู้น้อยครับต้องขออภัยหากความสงสัยของผมไม่เข้าท่า)

คุณงบน้อยนี้ ปัญญาท่านก็คงน้อยไปด้วย  ผมขอเสนอเกณฑ์ในการตัดสินธรรมวินัย ซึ่งคุณ morning_glory รวบรวมไว้ที่ larntham.net ไว้ดังนี้


พระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ กูฏาคารศาลา ป่ามหาวัน เมืองเวสาลี พระนางมหาปชาบดี เสด็จไปเฝ้าทูลขอให้ทรงแสดงธรรมโดยย่อ เพื่อหลีกออกปฏิบัติแต่ผู้เดียว พระพุทธองค์ทรงประทาน ลักษณะตัดสิน ธรรมวินัย ๘ ประการ ให้ทรงปฏิบัติคือ:-

ธรรมเหล่าใดเป็นไปเพื่อ ๑. ความกำหนัด ๒. ประกอบสัตว์ไว้ในภพ ๓. ความสั่งสมกิเลส ๔. ความมักมาก ๕. ความไม่สันโดษ ๖. ความคลุกคลีด้วยหมู่คณะ ๗. ความเกียจคร้าน ๘. ความเลี้ยงยาก พึงทราบเถิดว่า นั่นไม่ใช่ธรรม ไม่ใช่วินัย ไม่ใช่คำสั่งสอนของ พระศาสดา

ส่วนธรรมเหล่าใดที่มีลักษณะตรงข้ามจากนี้ พึงทราบเถิดว่า นั่นเป็นธรรมเป็นวินัย เป็นคำสั่งสอนของพระศาสดา สังขิตตสูตร ๒๓/๒๕๕

หลักใหญ่สำหรับเทียบเคียง ๔ (ฝ่ายธรรมะ)
พระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ อานันทเจดีย์ ใกล้โภคนคร ได้ตรัสถึงมหาประเทศ ๔ สำหรับสอบสวนเปรียบเทียบ หลักคำสอนของพระพุทธเจ้า คือ

หากมีภิกษุกล่าวว่า
๑. ข้าพเจ้าได้ฟังมาจากพระพุทธเจ้าว่า นี้เป็นธรรม นี้เป็นวินัย นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า
๒. ในวัดโน้นมีสงฆ์อยู่ พร้อมด้วยพระเถระ ข้าพเจ้าได้ฟังมาเฉพาะหน้าสงฆ์นั้นว่า นี้เป็นธรรม นี้เป็นวินัย นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า
๓. ในวัดโน้นมีพระเถระอยู่มาก เป็นผู้รู้ผู้ชำนาญ ทรงทรงวินัย นี้เป็นวินัย นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า
๔. ในวัดโน้นมีพระเถระอยู่องค์หนึ่ง เป็นผู้รู้เป็นผู้ชำนาญ ทรงธรรมทรงวินัย ข้าพเจ้าได้ฟังมาเฉพาะหน้า พระเถระรูปนั้นว่า นี้เป็นธรรมนี้เป็นวินัย นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า

เมื่อได้ฟังมาดังนี้ จงอย่าชื่นชมหรือคัดค้าน แต่จงเรียนข้อความและถ้อยคำเหล่านั้นให้ดี แล้วจงสอบสวนดูในพระสูตรและเทียบเคียงดูในพระวินัย

ถ้าลงและเข้ากันไม่ได้ พึงทราบเถิดว่า นี้มิใช่คำสอนของ พระพุทธเจ้า ท่านจำมาผิดแล้วจงทิ้งเสียเถิด

สัญเจตนิยวรรค ๒๑/๑๙๕ หลักใหญ่สำหรับเทียบเคียง ๔ (ฝ่ายพระวินัย)

พระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน เมืองสาวัตถีเวลานั้นของขบฉันได้แก่ผลไม้ มีผู้นำมาถวายมาก พวกภิกษุพากันสงสัยว่าผลไม้ประเภทใดควรฉัน หรือไม่ควร พระพุทธองค์ทรงประทาน หลักใหญ่สำหรับเทียบเคียง ๔ ในฝ่ายพระวินัยที่เรียกว่ามหาประเทศ คือ

๑. สิ่งใดไม่ได้ห้าม ไว้ว่าไม่ควร แต่เข้ากันได้กับสิ่งที่ไม่ควร (อกัปปิยะ) ขัดกับสิ่งที่ควร (กัปปิยะ) สิ่งนั้นไม่ควร
๒. สิ่งใดไม่ได้ทรงห้าม ไว้ว่าไม่ควร แต่เข้ากันได้กับสิ่งที่ควร (กัปปิยะ) ขัดกับสิ่งที่ไม่ควร (อกัปปิยะ) สิ่งนั้นควร
๓. สิ่งใดไม่ได้ทรงอนุญาต ไว้ว่าควร แต่เข้ากันได้กับสิ่งที่ไม่ควร (อกัปปิยะ) ขัดกับสิ่งที่ควร (กัปปิยะ) สิ่งนั้นไม่ควร
๔. สิ่งใดไม่ได้ทรงอนุญาต ไว้ว่าควร แต่เข้ากันได้กับสิ่งที่ควร (กัปปิยะ) ขัดกับสิ่งที่ไม่ควร (อกัปปิยะ) สิ่งนั้นควร วินัย ๕/๑๒๓

ผมขอยืนยันว่า ในฐานะนักภาษาศาสตร์ วิชาธรรมกายสอดคล้องกับพระธรรม พระวินัยทั้งในด้านปริยัติ ปฏิบัติ และปฏิเวธ

คือ ถูกต้องตามหลักภาษา ปฏิบัติตามได้ ได้ผลของการปฏิบัติตรงตามพระสูตรพระวินัยร้อยเปอร์เซ็นต์

คุณงบน้อย ไม่ลงพยายามหา “ยุบหนอพองหนอสูตร” ดูบ้างล่ะ  อาจจะเจอก็ได้นะคุณ

ต่อไปคุณ constant ซึ่งผมสันนิษฐานว่า คงเป็นคนๆ เดียวกันกับ อันธพาล Ritti Janson เข้ามาติดๆ กันหลายความคิดเห็น เอาเนื้อหาวิชาธรรมกายมาเป็นตัวอย่างและหลักฐานดังนี้

ความคิดเห็นที่ 11 จากคุณ constant - [16 ก.พ. 51 09:06:18]

ในจำนวนล้านที่คุณจขกทว่า  มีควายที่เชื่อเรื่องนี้อยู่สักกี่ตัวหรือครับ

คุณ constant อ้างถึงลิงก์ที่ตายไปแล้วลิงก์นี้  http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y5705521/Y5705521.html

แต่เอาเนื้อหามาด้วย ดังนี้

เพราะนิพพานเป็นจุดสำคัญ พระพุทธเจ้า พระอรหันต์จึงปรารถนามุ่งหมายนัก ภาคดำเขาก็หวงแหน บิดบังอย่างสุดขีด เพราะว่า ถ้าสัตว์ยังเวียนว่ายอยู่ในภพสามตราบใด ภาคดำเข้าก็ต้มเล่นอย่างสนุก

แล้วในนิพพานนั้น เป็นที่สุโขมโหฬาร จนไม่มีส่วนเปรียบ

ยังพวกจักรพรรดิที่คอยดูแลปฏิบัติพระพุทธเจ้าอยู่ในนิพพานนั้น ก็ล้วนแต่ใสเป็นแก้วทั้งนั้น และไม่ใช่แต่จะดูแลในนิพพานเท่านั้น  ถึงแม้ในภาพสามเรานี้ พวกจักรพรรดิและพระพุทธเจ้าก็ต้องคอยดูแลส่งเสียอยู่ไม่ขาดเหมือนกัน

ที่ส่งความบริบูรณ์มาหล่อเลี้ยงหมู่สัตว์ของพระพุทธเจ้าในนิพพานนั้น ยิ่งกว่าบิดามารดาที่มีต่อบุตร ธรรมดาบิดามารดานั้น ถึงบุตรจะชั่วร้าย ไม่รู้จักบุญคุณอย่างไร ก็ยังรักอยู่เสมอ แต่พระพุทธเจ้าทรงคุณยิ่งกว่านั้น ความกรุณาต่อสัตว์ไม่เลือกหน้า

ถึงสาวกในพระศาสนา จะชั่วช้าไม่รู้จักพระคุณ เหมืออย่างพระเทวทัตก็ดี ก็ยังกรุณาอยู่เสมอ

ฉะนั้น พระคุณพระพุทธเจ้าจึงมีมากสุดจะพรรณนา ที่ท่านกล่าวไว้ในคัมภีร์เก่าๆ ว่า เปรียบเหมือนบุรรุษที่มีฤทธิ์เนรมิตศีรษะได้พันศีรษะๆ ละร้อยปาก มีปากละร้อยลิ้น แล้วจะพรรณนาคุณพระพุทธเจ้าอยู่จนตลอดกัลป์ ก็ยังไม่สิ้นสุดพระคุณของพระพุทธเจ้า

แต่ภาคดำตรงกันข้าม นั่นมีพระเดช ถึงบุรุษผู้มีพันศีรษะ ๆ ละร้อยปาก ปากละร้อยลิ้น จะพรรณาพระเดชมารไปตลอดกัลป์ก็ไม่สิ้นสุดโทษของเขาได้เหมือนกัน

พระพุทธเจ้าภาคดำนี้ ล้วนแต่เป็นพญามัจจุราชทุกองค์ มีแต่จะให้ทุกข์โทษแก่สัตว์ฝ่ายเดียว ทุกข์ของสัตว์ที่มีร้อยแปดประการนั้น เป็นธรรมของภาคดำฝ่ายเดียว ฉะนั้น ถึงจะพรรณาโทษของเขาสักกี่กัลป์ก็ไม่สิ้นสุด

ผมสันนิษฐานว่า คงนำมาจากหนังสือปราบมาร เล่มใดเล่มหนึ่งของคุณลุงการุณย์ บุยมานุช แต่ผมเองก็จำเล่มไม่ได้เหมือนกัน เดี๋ยวนี้มี 6 เล่ม 6 ภาค


ความคิดเห็นที่ 12-13  จากคุณ constant - [ 16 ก.พ. 51]  ให้ความเห็น ดังนี้

พระพุทธเจ้าสอนไม่ได้แบบนี้ คนที่เห็นนะเพี้ยน เพราะติดนิมิต

คุณ constant ไปนำมาจากที่นี่ http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2007/11/Y6000735/Y6000735.html ซึ่งจะวิพากษ์วิจารณ์ภายหลัง

สำหรับข้อความก็คือส่วนนี้

บทบัญญัติที่ ๓๓ ดูสัณฐานนิพพาน ภพ ๓ โลกันต์ในจักรวาล จากหนังสือวิชชามรรคผลพิสดาร

จักรวาลนี้มีสัณฐานกลม มีภูเขาเป็นเขตล้อมรอบ ภายในจักรวาลมีนิพพานอยู่ส่วนเบื้องบน เบื้องกลางคือภพ ๓ เบื้องต่ำคือภพโลกันต์เป็นราก

นิพพานปรุงแต่งขึ้นด้วยธาตุธรรมแก้วกายสิทธิ์ ใสสว่างบริสุทธิ์ไปด้วยแก้วกายสิทธิ์ ทั้ง พื้นและอากาศเบื้องบนและข้างขวา ข้างซ้าย ภายในนิพพานนั้น สำเร็จไปด้วยแก้วกายสิทธิ์ทั้งนั้น นิพพานมีลักษณะสัณฐานกลมดังลูกกระสุน รอบนอกก้อนกลมนั้น เป็นอากาศว่างสะอาด และละเอียดบริสุทธิ์

ก้อนกลมนั้นลอยอยู่กับอากาศ มีอากาศที่สะอาดละเอียดรองรับอยู่ ภายในก้อนกลมนั้นเป็นเมืองนิพพาน เป็นที่เสด็จอยู่ของพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ขีณาสพทั้งหลาย มากกว่าเมล็ดทรายในท้องมหาสมุทรทั้ง ๔ พื้นว่างและอากาศเป็นพื้นเบื้องบน และอากาศที่เป็นพื้นข้างขวาข้างซ้ายภายในก้อนกลมนั้น สำเร็จไปด้วยแก้วกายสิทธิ์ทั้งนั้น มีพระพุทธเจ้านั่งเป็นแถวเรียงกันไปสุดหูสุดตา จะนับจะประมาณมิได้  มีขนาดองศาเท่าๆ กัน เกตุดอกบัวตูมเป็นแก้วขาว หน้าตักกว้าง ๒๐ วา สูง ๒๐ วาเท่านั้น

ที่เป็นพระพุทธเจ้าเนื้อแก้วก็ใสสะอาด เนื้อแก้วละเอียดมีน้ำดี เป็นเพชรชั้นที่หนึ่ง มีแก้วอ่อนกว่ากันเป็นชั้นๆ ที่เป็นพระสาวกและพระสาวิกา เนื้อแก้วก็ใสละเอียดลดลงมากกว่าพระพุทธเจ้าเป็นเพชรน้ำที่รองๆ กันลงมา และมีแก่อ่อนกว่ากันเป็นชั้นๆ ตามบารมีแก่อ่อนกว่ากัน หรือตามธาตุธรรมอ่อนแก่กว่ากัน

คุณ constant - [16 ก.พ. 51 09:13:33] เข้ามาแถมท้ายในความคิดเห็นที่ 14 ดังนี้

ใครเก่งเกินพระพุทธเจ้า ก็ไปตั้งศาสนาใหม่ได้เลยครับ ทั้งอ้ายเสื้อแขนยาว ทั้งอ้ายลุงปราบมาร และบรรดาลิ่วล้อทั้งหลาย

แต่งตั้งศาสดาเสร็จแล้ว แล้วไม่ต้องอ้างพระพุทธเจ้า เอาวิชชาศูนย์กลางกาย และความคิดทุเรศๆ มาสวมในพุทธศาสนานะครับ

ก่อนอื่นที่จะไปกันต่อ ขอหยุดเพื่อสาปแช่ง คุณ constant ในฐานะที่ล่วงเกินคุณลุงการุณย์ บุญมานุช กับหลวงพ่อวัดปากน้ำ แล้วจะวิพากษ์วิจารณ์ภายหลัง

ครั้งที่ 1
ข้าพเจ้า ดร. มนัส โกมลฑา ขออำนาจ บุญ บารมี รัศมี กำลัง ฤทธิ์ ที่ได้กระทำมาตั้งแต่อดีตชาติ ปัจจุบันชาติ และอนาคตชาติ ขอสาปแช่งให้ คุณ constant จงพบกับความวิบัติ ทั้งทางโลกและทางธรรม นับตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป ด้วยเทอญ

ครั้งที่ 2
ข้าพเจ้า ดร. มนัส โกมลฑา ขออำนาจ บุญ บารมี รัศมี กำลัง ฤทธิ์ ที่ได้กระทำมาตั้งแต่อดีตชาติ ปัจจุบันชาติ และอนาคตชาติ ขอสาปแช่งให้ คุณ constant จงพบกับความวิบัติ ทั้งทางโลกและทางธรรม นับตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป ด้วยเทอญ

ครั้งที่ 3
ข้าพเจ้า ดร. มนัส โกมลฑา ขออำนาจ บุญ บารมี รัศมี กำลัง ฤทธิ์ ที่ได้กระทำมาตั้งแต่อดีตชาติ ปัจจุบันชาติ และอนาคตชาติ ขอสาปแช่งให้ คุณ constant จงพบกับความวิบัติ ทั้งทางโลกและทางธรรม นับตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป ด้วยเทอญ

คุณ constant ซึ่งน่าจะเป็นคนเดียวกับ อันธพาล Ritti Janson ที่หนีคุณสมถะหัวซุกหัวซุนหายไปจากกระทู้ในท้ายๆ กระทู้นี้  แต่ตอนนี้คุณสมถะยังไม่เข้ามา คุณ constant แกก็อาละวาดใหญ่ อาละวาดจนผมมาพบ แล้วก็สาปแข่งเอานั้นแหละ

คุณ constant แก้พยายามถามอยู่ 2 เรื่อง และสรุปได้ 1 เรื่อง ดังนี้

1) ในจำนวนล้านที่ คุณจขกทว่า  มีควายที่เชื่อเรื่องนี้อยู่สักกี่ตัวหรือครับ
2) พระพุทธเจ้าสอนไม่ได้แบบนี้ คนที่เห็นนะเพี้ยน เพราะติดนิมิต
3) พวกสอนวิชาธรรมกายทำตัวเก่งกว่าพระพุทธเจ้า

1) ในจำนวนล้านที่ คุณจขกทว่า  มีควายที่เชื่อเรื่องนี้อยู่สักกี่ตัวหรือครับ
ตรงนี้ไม่ต้องเอาคนอื่นเลย เอาผม ดร. มนัส โกมลฑานี่แหละ ผมเชื่อ ผมสอนนักเรียนนักศึกษามาเป็นแสนคนแล้ว สอนจนเด็กเห็นกายธรรม วาดรูปมาให้ดูด้วย

แล้วผมนี่แหละ ที่เอาความงี่เง่าของ อันธพาล Ritti Janson ไปวิพากษ์วิจารณ์เป็นบทความเรื่อง “หลวงพ่อวัดปากน้ำเลิกสอนวิชาธรรมกาย เรื่องปัญญาอ่อน ของคนปัญญาอ่อน”  จนกระทั่ง อันธพาล Ritti Janson มาโมโหจนเกือบจะตับแตกในกระทู้นี้

ที่ อันธพาล Ritti Janson ไม่ได้บอกเลย และสำคัญมากก็คือ  คำสอนของหลวงพ่อวัดปากน้ำนั้น ผิดอย่างไร  มันว่าผิดอย่างเดียว แต่ไม่เอาของที่ “มันว่าถูกมาเสนอ” 

ประเด็นนี้ เลวพอๆ กับพระประยุทธ์-พระเปลืองข้าวสุกประชาชน ที่บอกว่า นิพพานเป็นอัตตาผิด ผิดโน่น ผิดนี่ นิพพานเป็นอนัตตา  แต่สารภาพมาอย่างหน้าด้านๆ ว่า “ยังไม่ได้ศึกษาว่านิพพานเป็นอนัตตาอย่างไร

อย่างนี้ก็มีด้วย...

2) พระพุทธเจ้าสอนไม่ได้แบบนี้ คนที่เห็นนะเพี้ยน เพราะติดนิมิต
ตรงนี้ก็เช่นเดียวกัน คุณ constant ไม่ได้เสนอว่า พระพุทธเจ้าสอนอย่างไร แล้วเปรียบเทียบกันแล้ว คำสอนของหลวงพ่อวัดปากน้ำผิดอย่างไร

ประเด็นของนิพพานนั้น พระพุทธองค์ทรงสอนคล้ายๆ กับ “บทคัดย่อ” ของวิทยานิพนธ์ และไม่ได้ทรงบรรยาย “สภาพของนิพพาน” ไว้

เมื่อหลวงพ่อวัดปากน้ำท่านบรรยาย “สภาพ” ของนิพพานได้  แต่คนอื่นๆ ไม่เคยอธิบายไว้เลย เราก็ต้องเชื่อคนที่เขาอธิบายได้ไว้ก่อน

ตัวเองอธิบายไม่ได้ ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรด้วย แล้วมาบอกว่า คนอธิบายได้ผิด ติดนิมิตอะไรของแกไปเรื่อย

อย่างนี้ก็มีด้วย...

3) พวกสอนวิชาธรรมกายทำตัวเก่งกว่าพระพุทธเจ้า
คุณ constant ไปตีความแบบสมองหมา ปัญญาควายมาจากข้อความไหนก็ไม่รู้  พระพุทธเจ้าทรงสอนว่านิพพานมีอยู่  นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง แล้วบอกวิธีปฏิบัติไปนิพพานกัน

หลวงพ่อวัดปากน้ำก็ปฏิบัติตาม แล้วก็เห็นนิพพาน ก็เอาสอนต่อไปกันไป เพื่อให้ธรรมะเป็นทาน

ก็เป็นการปฏิบัติตามคำสอน  ผมยังไม่เห็นว่า หลวงพ่อวัดปากน้ำจะเขียน ท่านเก่งกว่าพระพุทธเจ้าตรงไหน

อย่างนี้ก็มีด้วย...



2 ความคิดเห็น:

  1. ท่าน ดร. ศึกษาธรรมมาก็มาก เหตุใด จึงแยกแยะคำสอนที่บิดเบือนของธรรมกายไม่ได้
    ผมจะช่วยเตือนสติท่านอีกสักครั้ง ธัมมชโย เคยพูดจากปากตัวเองว่า หากสามารถปราบพระพุทธเจ้าดำ ได้จะไม่มีคนทำชั่วอีกต่อไป เพราะความคิดชั่วเกิดจากการสอดแทรกของพระพุทธเจ้าดำ คำสอนนี้ท่านเห็นว่าเป็นอย่างไร หากยังเชื่อว่าจริงอีก ท่านก็เกินเยียวยาแล้ว

    กิเลส ตัณหา ความโลภโกรธ หลง เป็นของเฉพาะตน มีแต่ตนเองจึงกำจัดได้ ผู้อื่นได้เพียงแต่ชี้แนะหนทาง นี้จึงถูกต้อง

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ผมด่ามันจนเหนื่อยแล้ว ตอนนี้ลบบล็อกออกไป เพราะโดนคดีหมิ่นประมาท

      ลบ